ชาบี อลอนโซ่ เป็นอีกหนึ่งคนที่ ลิเวอร์พูลเล็งไว้
อลอนโซ่ ได้รับการยกย่องอย่างมากจากการนำ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งและยึดตำแหน่งจ่าฝูงศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี อย่างเหนียวแน่น ที่สำคัญเขายังนำทัพ “ห้างขายยา” ไม่แพ้ใครในทุกรายการที่ลงแข่งสำหรับฤดูกาลนี้
กระนั้นชื่อของ “คุณชาย” คือตัวเก็งเต็งหนึ่งที่จะได้รับงานคุม “หงส์แดง” หลัง นายใหญ่ชาวเยอรมัน ประกาศวางมือจากการกุมบังเหียนยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ หลังจบซีซั่น 2023/2024 อย่างไรก็ตาม การจะได้ อลอนโซ่ มาทำงานไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะล่าสุด ไซม่อน โรลเฟส ผู้บริหารทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แสดงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า กุนซือชาวสแปนิช จะอยู่คุมทีมต่อในซีซั่นหน้า
ด้วยเหตุนี้ “เดอะ เร้ดส์” ต้องเตรียมแผนสำรองหากเกิดกรณีฉุกเฉินที่ไม่สามารถดึง อลอนโซ่ มาทำงานร่วมกันได้ และตอนนี้พวกเขามีลิสต์รายชื่อ 5 โค้ชชั้นดีที่น่าจะเป็นทางเลือกเสริมเอาไว้แล้ว
1. เป๊ป ไลจ์นเดอร์ส
ออปชั่นแรกที่บอร์ดบริหารมองเอาไว้เป็นทางเลือกก็คือ ไลจ์นเดอร์ส ซึ่งรู้ตื้นลึกหนาบาง ลิเวอร์พูล เป็นอย่างดี เพราะเขาคือมือขวาที่ไว้วางใจได้ของ คล็อปป์ โดยเจ้าตัวได้ร่วมงานกันตั้งแต่ปี 2014 และช่วยกันสร้างทีมจนแข็งแกร่งมาถึงปัจจุบัน
ไลจ์นเดอร์ส เคยมีประสบการณ์ช่วงสั้นๆในฐานะเทรนเนอร์เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี 2018 ก่อนจะกลับมาทำงานเป็นผู้ช่วย คล็อปป์ ต่อ โดย โค้ชชาวดัตช์วัย 41 ปี เป็นหนึ่งในทีมสตาฟฟ์ที่รู้ใจของ “บอส” และได้รับคำชื่นชมอย่างมาก
อย่างไรก็ตามปัญหาเดียวในกรณีนี้ก็คือ ไลจ์นเดอร์ส ประกาศว่าจะอำลาทีมไปพร้อมกับ คล็อปป์ และแน่นอนว่าเป้าหมายต่อไปของเขาก็คือการรับงานกุมบังเหียนสโมสรแบบเต็มตัว แต่คงไม่ใช่ “หงส์แดง” ในช่วงซัมเมอร์นี้
ถ้าถามสาวก “เดอะ ค็อป” ว่าอยากได้ ไลจ์นเดอร์ส กุมบังเหียนหรือไม่ แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์และการทำงานกับ คล็อปป์ มานานเขารู้วิธีในการวางแท็คติก และรู้ใจนักเตะทุกคน แต่ถ้าเลือกได้คงอยากให้ โค้ชชาวดัตช์ มีประสบการณ์ในการคุมทีมอย่างจริงจัง ก่อนจะกลับมาที่แอนฟิลด์
2. โรแบร์โต้ เด แซร์บี้
แม้ว่า ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ประกาศจุดยืนชัดเจว่าไม่มีทางปล่อย เด แซร์บี้ ไปคุม ลิเวอร์พูล แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดเขาเพื่อโอกาสสุดท้าทายถ้า “หงส์แดง” ติดต่อเข้ามาจริงๆ
กุนซือชาวอิตาเลียน เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานที่จะรับงานที่ใหญ่กว่าการคุมสโมสรระดับกลางตารางเท่านั้น ที่สำคัญ เด แซร์บี้ เป็นคนที่มีบุคลิกที่คล้ายๆ กับ คล็อปป์ ซึ่งเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นกระตือรือร้น และเต็มไปด้วยแรงปรารถนาที่จะคว้าชัยชนะในทุกเกม
แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรที่สามารถเติมเต็มความฝันของ เด แซร์บี้ ได้ กระนั้นผลงานของ “เดอะ ซีกัล” ในซีซั่นนี้อาจจะไม่โดดเด่นเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าเขาเก่งจริงหรือไม่ ?
อย่างไรก็ตาม ถ้าหาก เด แซร์บี้ สามารถนำ ไบรท์ตัน ประสบความสำเร็จทั้งอันดับในตารางศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และมีโทรฟี่แชมป์ติดไม้ติดมือ แน่นอนว่านี่จะเป็นใบเบิกทางที่ดีเยี่ยมที่ทำให้เขาคู่ควรกับตำแหน่งทายาทคล็อปป์
3. รูเบน อโมริม
กุนซือสปอร์ติ้ง ลิสบอน เป็นโค้ชที่ถูกหมายตาอย่างมากจากหลายสโมสร โดยสื่อสเปนหลายสำนักรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า บาร์เซโลน่า อยากได้ตัว รูเบน อโมริม มานั่งเก้าอี้นายใหญ่แทน ชาบี เอร์นานเดซ ในช่วงซัมเมอร์นี้
อโมริม มีค่าฉีกสัญญาประมาณ 30 ล้านยูโร (ราว 1,200 ล้านบาท) ดังนั้นหากทีมไหนอยากได้ตัวเขาไปใช้บริการก็ต้องกล้าทุ่มเงินจำนวนดังกล่าวให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และแน่นอนว่า ลิเวอร์พูล กับ บาร์ซ่า ก็พร้อมจ่ายถ้าหากอยากได้ตัวเขาจริงๆ
โค้ชวัย 39 ปี เข้ามาทำงานให้กับ สปอร์ติ้ง นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 และมีสถิติที่น่าประทับใจมากๆ ด้วยการชนะ 134 แมตช์จาก 192 เกมในการกุมบังเหียน และนำต้นสังกัดคว้าแชมป์ ลีกา ปอร์ตุกัล ลีก สมัยแรกในรอบ 19 ปีจากการกุมบังเหียนเต็มซีซั่นครั้งแรก
อโมริม เป็นคนที่ชอบศึกษาเรื่องเกมลูกหนังอย่างมาก และเป็นโค้ชที่ชื่นชอบการวางแท็คติกใหม่ๆ ที่สำคัญในฐานะอดีตนักเตะที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เขามุ่งมั่นที่จะออกไปหาความท้าทายใหม่ในต่างแดน งานนี้ขึ้นอยู่กับ ลิเวอร์พูล ว่าจะสามารถโน้มน้าวใจเขาได้มากกว่าทีมอื่นหรือเปล่า
4. แกรม พอตเตอร์
ก่อนหน้านี้ แกรม พอตเตอร์ ถือเป็นกุนซือเนื้อหอมคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีกตอนที่กุมบังเหียน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน จากนั้นก็ได้รับโอกาสทองคุม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ในช่วงเดือนกันยายน 2022
อย่างไรก็ตามการทำงานในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ มีหลายอย่างไม่เวิร์ก แถมบอร์ดบริหารและแฟนบอล “สิงห์บลูส์” ยังขาดความอดทนในการรอคอยความสำเร็จ นั่นทำให้ กุนซือชาวอังกฤษ ต้องโดนระเห็จออกจากตำแหน่งไปอย่างน่าเจ็บปวด
อกจากนี้หนึ่งในความล้มเหลวของ พอตเตอร์ มาจากการที่เขาไม่สามารถรับมือกับอีโก้ของนักเตะค่าตัวแพงระยับได้ ถึงแม้จะล้มเหลวก็ตามแต่ศักยภาพของเขายังคงมีความสนใจ และนั่นเป็นเหตุผลที่ ลิเวอร์พูล สนใจในตัวบุรุษท่านนี้
สำหรับ พอตเตอร์ ไม่ใช่แค่ “หงส์แดง” เท่านั้นที่สนใจอยากได้ตัวเขามาทำหน้าที่เป็นทายาท คล็อปป์ เพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคเซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ชื่นชอบชายคนนี้เช่นเดียวกัน
5. ซีเนดีน ซีดาน
สำหรับคนสุดท้ายต้องบอกว่ามีชื่อเกี่ยวพันกับทุกสโมสรที่ตำแหน่งกุนซือว่างอยู่ โดย ซีดาน ยังไม่ได้รับงานคุมทีมใดเลยนับตั้งแต่แยกทางกับ เรอัล มาดริด เมื่อเดือนพฤษภาคม 2021
“ซิซู” มีข่าวพัวพันกับงานในระดับสโมสร และทีมชาติ โดยก่อนหน้านี้เขาเคยมีข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ทีมชาติสหรัฐอเมริกา และ บราซิล มาแล้ว แต่เจ้าตัวปฏิเสธเรียบวุธ เพราะต้องการรอคอยงานที่เหมาะสมที่สุด
อดีตเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 1 ของโลก อาจจะเป็นตัวเลือกที่อยู่ท้ายๆ ของ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่เพราะเขาไม่เก่ง แต่เป็นเพราะมีหลายอย่างที่ ซีดาน ไม่ได้เหมาะกับงานของ “หงส์แดง”
ทั้งนี้ ซีดาน เป็นหนึ่งในโค้ชที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งสมัยเป็นนักเตะและกุนซือ โดยเขาเคยนำ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัย พร้อมสถิติชนะ 174 เกมจาก 263 แมตช์ในการกุมบังเหียน
ติดตามข่าวกีฬาเพิ่มเติมได้ที่นี่ Facebook Fanpage LIVESPORT911
รับชมการถ่ายทอดสดบอล และกีฬาอื่นๆได้ที่นี่ LIVESPORT911